ตอนเด็กๆ น่าเกลียดยังไง โตมาก็ไม่ต่างกัน” คำพูดที่เขาอยากกลืนกลับลงไป
ขอถอนคำพูดตอนนี้ได้ไหม โตมายังไงให้น่ากินขนาดนี้
*****************************
“อะ” อยู่ ๆ เสียงเล็ก ๆ ก็อุทานขึ้นเบา ๆ พร้อมกับหันไปมองเจ้าของมือที่พลิกตัวมากอดเธอเหมือนเขากำลังเปลี่ยนท่านอนให้สบายมากยิ่งขึ้น เหมือนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในทุกวันอยู่แล้วญาณิดาเลยไม่ได้ติดอะไร
“นี่แกล้งหลับใช่ไหมคะ” พอถูกอีกคนซุกหน้าลงไปที่ไหล่เล็ก ๆ ญาณิดาก็เริ่มรู้ตัวทันทีว่าโดนอีกคนแกล้งเข้าให้แล้ว
“หอมจังค่ะ เข้าห้องน้ำนานมากเลย” ตุลธรยังคงก้มไปหอมไหล่เล็ก ๆ วนเวียนที่ไหปลาร้านั่นไม่ยอมออกไปไหน
“ไหนว่านอนเฉย ๆ คะ” ญาณิดาขืนตัวออกเล็กน้อย อยากรู้ว่าอีกคนตื่นมาแกล้งหรือเป็นการละเมอเฉย ๆ
“ตอนแรกก็ว่าจะนอนเฉย ๆ นั่นแหละค่ะ แต่ว่าเราตัวหอมมาก มากจริง ๆ” เขาไม่พูดเปล่า แต่ยังกดจมูกลงไปที่แขนเล็ก ๆ นั้นอยู่หลายครั้งจนเกิดเสียง
“พี่ตุล ไหนบอกเหนื่อย นอนเถอะค่ะ เลิกกวนได้แล้ว” เธอพยายามเบี่ยงตัวให้พ้นเขา
“คืนนี้พี่อยากเติมพลังจังเลย”
“ไม่ได้”
“นะคะ เหนื่อยมากเลย ถ้าได้ยาชูกำลังคงจะดีไม่น้อย”
“ไหนบอกเหนื่อย จะมาชูมาชงอะไรคะ นอนได้แล้ว” ญาณิดาไม่อยากคุยกับเด็กโตที่เอาแต่งอแงอย่างเขาต่อ เลือกที่จะพลิกตัวหันหลังให้เขาเพราะไม่อยากคุยต่อแล้ว
พออีกคนนอนหันหลังให้ก็เหมือนอะไร ๆ จะเข้าทางตุลธรไปเสียหมด ตอนนี้เขาเลยได้ทีเขยิบเข้าไปชิดตัวอีกคนจนไม่เหลือช่องว่างระหว่างคนทั้งสอง ตุลธรน้อยพยายามทักทายสะโพกของอีกคน พร้อมกันนั้นเขาก็พยายามก้มลงไปคลอเคลียที่ต้นคอของอีกคน
“พี่ตุล จะเอาให้ได้ใช่ไหมเนี่ย” ญาณิดาตะครุบมือของอีกคนที่พยายามล้วงเข้ามาในเสื้อเธอ
“เอาค่ะ อยากเอามาก”
“พี่ตุล” ยังไม่ทันที่ญาณิดาจะทันได้พูดอะไรต่อ อีกคนก็พลิกตัวขึ้นมาอยู่ข้างบนโดยมีตัวเธออยู่ภายในอ้อมแขนเขา
“นะคะ ถ้าเราไม่ให้เอาจริง ๆ พี่จะนอนเงียบ แต่ถ้าโอ...” เขามองเธอพร้อมกับส่งสายตาที่หลากความหมาย แต่ที่ชัดเจนมากที่สุดก็คือเขารักเธอมาก หวงแหนและอยากเป็นเจ้าของเธอแต่เพียงผู้เดียว ถ้าเขากลืนเธอลงไปเก็บไว้ในท้องได้เขาคงทำไปแล้ว
ญาณิดาไม่ตอบแต่เธอพยักหน้าให้เขาเบา ๆ คล้ายกับบอกอนุญาตแล้วว่าพี่สามารถทำในสิ่งที่พี่ต้องการได้ เพียงแต่ต้องอย่าลืมว่าเราทั้งสองมีงานต้องทำ