ตัวอย่าง...
“เป็นอะไรหืม...” คามินทร์ที่ออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูที่พันเอวอย่างหมิ่นเหม่ ซึ่งดูก็รู้ว่าเพิ่งจะเสร็จกิจกรรมอย่างว่ามาหมาดๆ ก็เดินเข้ามาหาเด็กของตนเองที่ทำหน้าบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด
“คุณคามินทร์ ดูข่าวพวกนี้สิครับ”
“ใส่ใจทำไม? มันอยู่ที่ตัวเธอสมายด์ ฉันยื่นโอกาสให้แล้วจะเหมาะหรือไม่เหมาะ มันขึ้นอยู่กับฝีมือเธอล้วนๆ อย่าทำให้ฉันต้องผิดหวัง” ชายหนุ่มก็ลูบหัวเด็กของตนเองอย่างเบามือ เพราะหากเขายื่นโอกาสให้ใครแล้วไม่ประสบความสำเร็จเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องแคร์แค่เขี่ยทิ้งก็จบ
“ครับ...แต่สมายด์ขอเงินช้อปปิ้งให้หายเครียดหน่อยได้มั้ยครับ” เด็กหนุ่มสมายด์พอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกริ่ม เลยเข้าไปสวมกอดเอวร่างสูงอย่างเอาอกเอาใจ
“เอาสิ อยากได้อะไรก็เอาไปรูดเลย” คามินทร์เองก็กำลังเห่อเด็กคนนี้เพราะเขายังไม่เบื่อ เจ้าตัวเลยเปิดลิ้นชักเอาบัตรสำรองที่ให้เลขาจัดการไว้ให้แล้วส่งยื่นให้กับเด็กตนเอง
“เย้...สามีใครน่ารักจัง” สมายด์พอได้เห็นบัตรเครดิตจากชายหนุ่มก็ยิ้มร่ารีบรับมันมาอย่างดีใจก่อนจะพูดจาคำหวานๆ ซึ่งสมายด์คิดว่ามันคือคำอ้อนที่น่ารักน่าเอ็นดู แต่ไม่ใช่สำหรับชายหนุ่มตรงหน้า
“หยุด!!! หากอยากอยู่ตรงนี้อย่าใช้คำพวกนี้กับฉัน” คามินทร์ผลักร่างเล็กออกจากตัวทันทีที่ได้ยินคำนั้น เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมาแสดงความเป็นเจ้าของเขาแบบนี้
“เอ่อ...สะ-สมายด์ขอโทษครับ” เด็กหนุ่มหน้าเจื่อนยิ้มไม่ออก เพราะหากโดนเขี่ยตอนนี้ทุกอย่างก็คงจบเห่
“จำเอาไว้ ฉันไม่มีเมียและไม่เป็นผัวใครทั้งนั้น เรื่องระหว่างเรามันคือธุรกิจ ออกไปซะ...” คามินทร์เป็นคนเด็ดขาดเขาไม่อยากมีพันธะกับใครหรือให้สถานะคู่นอนคนไหนทั้งนั้น
“คุณคามินทร์...สมายด์ไม่ได้ตั้งใจ คุณคามินทร์อย่าโกรธสมายด์เลยนะครับ” ร่างเล็กก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่าเขาทำให้ร่างสูงไม่พอใจอย่างมาก จึงเข้าไปสวมกอดชายหนุ่มอีกครั้ง
“อีกข้อ...ฉันไม่ชอบคนเซ้าซี้ คำพูดของฉันทุกคนต้องปฏิบัติตามเท่านั้น ออกไปก่อนที่ฉันจะเขี่ยเธอทิ้ง” คามินทร์สะบัดตัวหนีจากอ้อมกอดที่อีกฝ่ายโผเข้ามากอดเขาไว้
“ครับๆ ...” สมายด์รีบลนลานลงจากเตียงรวบเสื้อผ้าที่กระจัดกายตามพื้นห้องออกมาสวมใส่ ในใจก็พลางสบถด่าชายหนุ่มอย่างหัวเสีย
‘ไอ้บ้าเอ๊ย!! หึ...พูดมาได้ว่ากูไม่ใช่เมีย เอากูทุกคืนจนรูกลวงไปหมดล่ะ แม่งกูจะรูดให้วงเงินกระจายเลย’
..........................
“คุณคามินทร์ครับ ให้เจ้าหน้าที่เอากระเป๋าไปเก็บให้เลยมั้ยครับ”
“ไม่ต้องนายหิ้วตามฉันไปง่ายกว่า...พักหลังไหน?” คามินทร์ที่นั่งหลับตาพักผ่อนก็เอ่ยขึ้นมาก่อนจะหรี่ตาขึ้นมาบิดคอเล็กน้อยให้พอมีเสียงดังกร๊อบ
“บ้านหลังที่ 10 ครับ พักกับเอ่อ...นักแสดงที่ชื่อเชนจ์ครับ” ลูกน้องรีบตอบตามที่เจ้าหน้าบอกมาพร้อมบอกชื่อนักแสดงผู้พักร่วมด้วย
“กับใครนะ?” คามินทร์ได้ยินชื่อผู้พักร่วมถึงกับถามย้ำอีกครั้ง
“นี่ครับในตารางเจ้าหน้าที่จัดมาแบบนี้ครับ” อันที่จริงเขาใช้อภิสิทธิ์ของเจ้านายไปขอเจ้าหน้าที่ว่าบ้านที่เจ้านายพักขอไม่เกินสองท่าน แล้วก็ได้ตามที่ขอแต่ไม่กล้าบอกผู้เป็นนายเดี๋ยวจะหาว่าเขาเรื่องมาก
“หึ! โอเค” คามินทร์มองดูรายชื่อที่เจ้าหน้าจัดแจงแล้วกระตุกยิ้มเล็กน้อย
ชายหนุ่มเดินผ่านลานกิจกรรมของทางค่ายเพื่อไปยังบ้านพักของตนเอง โดยมีลูกน้องยกกระเป๋าตามหลังเขามาติดๆ เจ้าหน้าที่หลายคนรวมถึงนักแสดงบางท่านก็ออกอาการเมื่อได้เห็นชายหนุ่มตัวเป็นๆ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิงตัวพ่อ รวมถึงนักข่าวบางท่านที่ติดตามมาก็ถ่ายรูปจากระยะไกลเพื่อนำไปทำข่าว
“นายไปได้ละมีอะไรเดี๋ยวฉันโทรเรียก”
“ครับ...คุณคามินทร์”
คามินทร์มองดูสภาพโดยรวมแล้วอึ้งหน่อยๆ เพราะเขาไม่เคยได้อยู่ที่แบบนี้เลยจริงๆ เขาอาจจะพักแค่คืนเดียวเพื่อเปิดงานในวันรุ่งขึ้น แล้วก็อาจจะให้ลูกน้องมารับไปพักในโรงแรม พอถึงวันปิดงานค่อยกลับมาอีกที ชายหนุ่มยกกระเป๋าของตนเองขึ้นกระท่อมก็เห็นอีกฝ่ายกำลังจัดแจงเอาสัมภาระของตนเองออกจากกระเป๋า และการมาของเขาทำให้อีกฝ่ายต้องหันมามองแล้วชะงักไปในทันที
“เอ่อ...” เชนจ์หุบยิ้มแทบไม่ทัน เมื่อผู้ร่วมห้องที่เจ้าหน้าที่จัดไว้เป็นใครที่เขาไม่อยากอยู่ด้วย
“ทำไม? เห็นหน้าฉันแล้วอึดอัดหรือไง” คามินทร์กระตุกยิ้มเลิกคิ้วเล็กน้อย แววตานั้นวูบไหวเหมือนสะใจอะไรบางอย่าง
“ครับ...” เชนจ์เองก็ตอบไปตามตรง ทำไมเขาจะต้องมาอยู่กับผู้ชายคนนี้ด้วยนะ คิดว่าโชคดีเสียอีกที่ได้พักแค่สองท่าน ดีกว่าหลังอื่นๆ ที่อัดกันแน่นสามถึงสี่คน
คามินทร์เห็นอีกฝ่ายเก็บของที่เอาออกมาบางส่วนยัดใส่ลงกระเป๋าตามเดิม ก่อนจะลุกพรวดพราดเดินเบี่ยงตัวเขาออกไปจากที่พัก “จะไปไหน?”
“ผมจะไปขอแลกห้องกับนักแสดงท่านอื่น เพราะดูท่าคุณเองก็คงไม่สะดวกที่จะนอนกับผม” เชนจ์เองก็พอจะรู้ว่าชายหนุ่มเองก็คงไม่อยากจะพักอยู่กับเขาหรอก
“หึ! นอนกับนายเหรอ...ก็สะดวกนะ” คามินทร์ปรายตามองเด็กหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างมีเลศนัย
“ขอตัวนะครับ...โอ๊ย! คุณ” เชนจ์ไม่ชอบสายตาของชายหนุ่มแบบนั้นเลยจริงๆ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปเหยียบตอใหญ่อะไรขนาดนั้น อีกฝ่ายถึงไม่ชอบขี้หน้าเขาขนาดนี้ ยังไม่ทันที่เขาจะได้เดินผ่านตัวเรือนก็โดนอีกฝ่ายกระชากกลับมา
“อย่าเรื่องมาก...เจ้าหน้าที่ชาวบ้านตาสีตาสาเค้าอุตส่าห์ทำงานกันหนัก เรื่องแค่ที่หลับที่นอนนักแสดงอย่างเธอยังมีปัญหา นักข่าวก็คง...” คามินทร์เองก็อยากเอาชนะเด็กนี่ถามว่าเพราะอะไรเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันนอกจากคำว่า ‘หมั่นไส้’
“ปล่อย...” เชนจ์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างเคืองๆ พร้อมบิดข้อมือให้ออกจากการเกาะกุมของชายหนุ่ม
“หึ...ถ้าฉันพูดอะไรก็ฟัง แล้วถ้าไม่ทำตามเธอเจอดีแน่” ชายหนุ่มลากนักแสดงหนุ่มเข้าที่พักและยังไม่ยอมปล่อยข้อมือของอีกฝ่าย
“ผมไม่ใช่เด็กคุณนะ ถึงจะมาสั่งเอาๆ” เชนจ์จ้องตาชายหนุ่มกัดฟันตอบออกไปทั้งๆ ที่เจ็บข้อมือเพราะแรงบีบของอีกฝ่ายไม่น้อย
“จะลองมาเป็นเด็กฉันมั้ยล่ะ?” คามินทร์กระตุกยิ้มเล็กน้อยดื้อพยศแบบนี้เขาละชอบดีนัก
“ผมมีความสามารถมากพอ ไม่จำเป็นต้องถ่างขาให้คุณเพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียงหรอก” ถ้าเขามีแรงเยอะกว่านี้ก็คงจะชกหน้าหล่อๆ นี้ให้หงายเงิบ คิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนกับเด็กที่ตัวเองคั่วอยู่หรือไงกัน