“ยัยริบอนุญาตให้พี่จีบเราได้แล้ว” ศรุตบอกด้วยสีหน้าเบิกบาน ทว่ากลับทำให้หญิงสาวที่เพิ่งจะสร่างเมานั่งอึ้งไปนานหลายนาที
“ยัยริบเนี่ยนะคะพูดแบบนั้น”
“ใช่ ทำไม อิงค์ไม่เชื่อพี่เหรอ”
“ชะ เชื่อค่ะ แค่รู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆ ยัยริบมันก็ยอม” อาณดาบอกตามตรงเพราะอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย
ใช่ว่าเธอจะไม่รู้เสียเมื่อไหร่ว่าศรุต พี่ชายของเพื่อนสนิทเธอคนนี้คิดยังไงกับเธอ เพียงแต่ก่อนหน้านี้เธอเองก็ไม่เคยแสดงออกชัดเจนหรือว่ามีทีท่าว่าจะเดินหน้ากล้าจีบเธอตรงๆ เลยสักครั้ง ซึ่งส่วนหนึ่งคงจะมาจากนิสัยเพลย์บอยของเขานั่นแหละที่ขนาดน้องสาวยังไม่ไว้ใจ ถึงขนาดประกาศว่าห้ามมาวุ่นวายหรือขายขนมจีบกับเธอเด็ดขาดเพราะกลัวว่าถ้าเกิดปัญหาแล้วจะทำให้มองหน้ากันไม่ติด
แล้วไหงวันนี้เขาถึงได้เดินมาพูดว่าจะจีบเธอ แถมยังได้รับอนุญาตจากน้องสาวคนดีของเขาแล้วเสียด้วยสิ
“อาจเพราะยัยริบแน่ใจแล้วก็ได้มั้งว่าพี่ชอบอิงค์จริงๆ” ศรุตถือโอกาสหยอด สายตากรุ้มกริ่มของเขาทำให้อาณดาต้องเสมองไปทางอื่นในทันที รวบรวมสมาธิอยู่นานกว่าที่จะกล้าหันกลับไปสู้สายตาของเสืออย่างเขา
“ขอโทษนะคะพี่ศรุต แต่อิงค์ว่าเราเป็นแค่พี่น้องกันเหมือนเดิมดีกว่า”
ถ้อยคำปฏิเสธของเธอทำใหศรุตถึงกับอึ้งไป แม้จะรู้แต่แรกว่าเธอคงไม่ยอมเปิดใจให้กับเขาง่ายๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะกล้าหักหน้าเขาด้วยการปฏิเสธเสียตรงขนาดนี้
“ผู้ชายต้องห้ามสำหรับอิงค์มีอยู่สองข้อค่ะ ข้อแรกคือแฟนเก่าของเพื่อน ส่วนข้อสองก็คือพี่น้องของเพื่อน ไม่ว่าเราจะน่ามืดหรือว่าหิวแค่ไหนก็ห้ามกิน” อาณดาบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง พูดจบเธอก็ขยับลงจากเตียงแล้วเดินกุมหัวไปเข้าห้องน้ำ ท่าทางจะแฮงก์อยู่พอสมควรถึงได้เดินโซซัดโซเซไปอย่างนั้น
ศรุตได้แค่มองตามแผ่นหลังเล็กๆ ของอาณดาออกไปกระทั่งเธอหายเข้าไปในห้องน้ำ เสียงถอนหายใจของเขาจึงดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก และเสียงรำพึงรำพันที่หลุดรอดออกมาเคล้ากับกลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจของเธอที่ยังลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ
“เพราะแบบนี้เธอก็เลยไม่รู้สินะว่าของต้องห้ามน่ะ รสชาติมันดีแค่ไหน”