ตะกร้าว่าง
เนื้อแท้วานร (Ape and Essence)อัลดัส ฮักซ์ลีย์ภาณุ ด่านวานิชกุล แปลเมื่อตอนที่ผลงานเรื่อง Brave New World ของอัลดัส ฮักซ์ลีย์ออกเผยแพร่ครั้งแรกในปี 1932 เขาได้นำเสนอจินตนาการถึงสังคมที่บิดเบี้ยวเพราะการทำลายตัวเอง มีบรรดานักวิจารณ์ไม่น้อยคาดว่าจินตนาการจะเกิดขึ้นจริงจากสงครามในที่อื่น ๆ ทั้งด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และระเบิดปรมาณู จนในปี 1948 ฮักซ์ลีย์ได้เขียนหนังสือเรื่อง Ape and Essence ขึ้นมาจากการสังเกตเห็นว่าโลกกำลังเดินไปในทิศที่สวนทางกับยูโทเปีย และได้สร้างความเปลี่ยนแปลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในนิยายอันป่าเถื่อนนี้ นำพวกเราไปสู่ปี 2108 โดยมีฉากของเรื่องอยู่ที่นครลอสแองเจลีส หลังจากที่โลกถูกทำลายล้างด้วยสงครามนิวเคลียร์จนกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สาม ผลกระทบจากรังสีทำให้มนษย์เกิดความบกพร่องทางร่างกายและจิตใจก็เสื่อมถอยลง กลับกันลิงพัฒนาตัวเองขึ้นจนสามารถออกคำสั่งและนำมนุษย์มาเป็นทาส “คณะสำรวจใหม่แห่งนิวซีแลนด์” ได้พยายามทำความเข้าใจต่อสิ่งที่หลงเหลืออยู่ จากมุมมองของหัวหน้านักพฤกษศาสตร์อัลเฟรด พูล เราจะได้เรียนรู้ด้วยความสะพรึงเกี่ยวกับชีวิตในศตวรรษที่ 22ใน เนื้อแท้วานร (Ape and Essence) อัลดัส ฮักซ์ลีย์ ระบุว่าผู้คนและชีวิตของพวกเขาถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยระบบวินัย จิตใจของผู้คนไม่เพียงแต่ถูกควบคุมโดยระเบียบวินัยเท่านั้น แต่ร่างกายยังถูกลงโทษทางวินัยในการยอมจำนน และพรากจากเจ้าของโดยชอบธรรมในความเป็นจริง สังคมแบบบีเลียลใน เนื้อแท้วานร ผู้คนถือเป็นทรัพย์สินของรัฐ ดังนั้นเป้าหมายและความทะเยอทะยานของเขาจึงหมุนไปรอบๆ การตอบสนองความต้องการของรัฐ นิยายเรื่องนี้จึงแสดงให้เห็นถึงผลกระทบของระบบวินัยอันเป็นผลจากระเบิดนิวเคลียร์ที่มีต่อมนุษยชาติ และสำรวจวิธีการจัดการกับมนุษย์ฮักซ์ลีย์ได้เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา เพื่อแสดงให้เราเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากฮิโรชิมา และนี่คือเรื่องราวตอนต่อของ Brave New World
คุกกี้ช่วยให้เราสามารถให้บริการจากเราได้ คุณควรยินยอมเปิดใช้งานคุกกี้