อย่าถามหา นางเอกผู้ใสซื่อบริสุทธิ์จากเรื่องนี้ ไม่มีนางเอกงดงามปานล่มเมือง ไม่มีนางเอกที่มีแต่บุรุษมาห้อมล้อม มีเพียงฆาตกรต่อเนื่องที่ทางการกำลังตามหาตัว บุรุษคนเดียวที่สนใจในตัวนาง คือ องครักษ์ขั้นสี่ที่กำลังสืบคดีฆาตกรรม
เมืองเอี้ยนหยางมีนิทานอยู่เรื่องหนึ่ง ที่คนเล่านิทานมักชอบนำมาเล่าในโรงน้ำชา นิทานเรื่องนั้นเล่าว่า ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง จะมีปีศาจจิ้งจอกต้องการทำคุณงามความดีออกมาช่วยมนุษย์ ด้วยการจ่ายเพียงหนึ่งเหวิน หากมีหนึ่งเหวินจะขอให้ปีศาจจิ้งจอกตนนั้นทำอันใดก็ได้
ถึงแม้จะเป็นเพียงนิทานหลอกเด็ก แต่กลับสร้างความหวังให้เด็กสาวอาภัพนางหนึ่ง
“ขะ..ข้าใกล้ ใกล้จะตายแล้ว” น้ำตาของนางค่อย ๆ ไหลออกมาจากหางตาเป็นสาย พร้อมกับเสียงพูดปนหอบที่ฟังปราดเดียวก็รู้ว่าคนพูดใช้ความพยายามมากแค่ไหน
“ปีศาจจิ้งจอก ข้ามีเงินหนึ่งเหวินมาแลกเปลี่ยนกับท่าน ข้าอยากแก้แค้น!”
“ข้าอยากให้คนพวกนั้นทนทุกข์ทรมานยิ่งกว่าข้า! อยากให้คนพวกนั้นไม่ตายดี! ข้าอยากให้มันตาย ตาย ตาย! ฮือ ๆ ข้าอยากกลับบ้าน อยากกลับไปถามท่านพ่อ ว่าเคยเห็นข้าเป็นลูกบ้างหรือไม่ ไฉนถึงขับไสไล่ส่งข้าให้มาให้บ่าวไพร่เลี้ยงดู ข้าอยากรู้ว่าท่านแม่ของข้าตายได้อย่างไร ฮึก!”
ฟ่านฉีหมิ่นเล่าเรื่องความทุกข์ทรมานของตนตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันจนกระทั่งลมหายใจสุดท้าย ดวงตาของนางเบิกโพรงตายตาไม่หลับ
หลังจากนางสิ้นลม ร่างบอบบางในชุดดำสนิทพร้อมหน้ากากเหล็กปิดบังใบหน้าค่อย ๆ ก้าวออกมาจากหลังรูปปั้น คนผู้นั้นคุกเข่าข้างหนึ่งลงที่ข้างศพ แล้วหยิบเหรียญหนึ่งเหวินจากมือศพขึ้นมาพิศดูใกล้ ๆ ก่อนจะมองสบตากับคนตาย
ราวกับว่าวิญญาณของฉีหมิ่นรับรู้ได้ ประกายในดวงตาค่อย ๆ หม่นแสงลง
“ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ข้าไม่ใช่ปีศาจจิ้งจอก” คนผู้นั้นกล่าวเสียงเรียบ “แต่เงินหนึ่งเหวินนี้ข้าจะรับเอาไว้ ความแค้นของเจ้า ข้าจะแก้แค้นให้เอง นับแต่นี้ ข้าคือเจ้า ฟ่านฉีหมิ่น”