อเมริกาไม่ใช่เซฟโซน เป็นอีกครั้งที่ขานขวัญไร้โชคกับโฮสต์ แม้ทางโครงการออแพร์จะยืนยันว่าสามารถหาโฮสต์ใหม่ให้ได้ แต่ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น ขานขวัญเริ่มหาตั๋วเครื่องบินเตรียมกลับไทย
“มาเป็นพี่เลี้ยงชั่วคราวให้กับลูกสาวผม…”
ข้อเสนอจากชายชาวไทยในอเมริกาที่เจอกันโดยบังเอิญที่ห้างสรรพสินค้าเสนอขึ้น ขานขวัญไม่มีความจำเป็นจะต้องปฏิเสธข้อเสนอนั้น การเป็นพี่เลี้ยงแม้จะเพียงชั่วคราวก็ทำเงินให้เธอได้ อีกอย่างลูกสาวของเขาก็น่ารักอย่างกับนางฟ้า ใครไม่ตอบตกลงก็คงบ้าเต็มที
“คุณขวัญทำไมตู้เย็นมีแต่สตรอว์เบอร์รี่ครับ” อวัชถาม
“โจลีนชอบค่ะ” ขานขวัญตอบทันทีแบบไม่ต้องคิดทำเอาคุณพ่อลูกติดขมวดคิ้ว
“คุณขวัญสปอล์ยโจลีนมากเกินไปไหมครับ?”
“ก็ไม่นะคะ กำลังพอดี”
พอดีย่อมาจากวลีที่ว่า พอโจลีนยิ้มกว้างทุกอย่างก็ดี จำไว้
เพียงไม่นานขานขวัญก็ถูกเลื่อนขั้น (?) จากพี่เลี้ยงรายวันสู่กุญแจสำคัญในการฟ้องเอาสิทธิ์การเลี้ยงดู หน้าที่อันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับการปล่อยไก่อันใหญ่ยิ่ง หลังจากเผยไต๋ออกไปว่าตัวเองหลงรักลูกสาวเขาแค่ไหน เธอจะพลาดอีกไม่ได้ ขานขวัญพยายามอย่างยิ่งที่จะแสดงความเป็นมืออาชีพให้อีกฝ่ายเห็น แต่ใครมันจะไปทนไหว…
“ตอนนี้ผมรู้แค่คุณขวัญไม่ทานช้อกโกแลต ชอบแกงส้ม ชอบอาหารจำพวกเส้นมากกว่าขนมปัง ไม่ดื่มกาแฟ ไม่ชอบผลไม้รสเปรี้ยว ของใช้ส่วนใหญ่เป็นสีม่วงอ่อน…”
ขานขวัญมองใบหน้าหล่อเหลาที่พระเจ้าตั้งใจปั้นค้างอยู่อึดใจใหญ่ ประโยคเมื่อคู่แสดงให้เห็นความใส่ใจที่เธอไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน
“ที่ผมรู้มีเท่านี้ คงจะดีถ้าอีกห้าเดือนที่เหลือคุณขวัญจะให้โอกาสผมได้รู้จักคุณขวัญมากขึ้น”
แพรวพราวแบบนี้ผิดกฎหมายไหมคะคุณทนาย