ประวัติศาสตร์ของชีวิตบางครั้งขึ้นอยู่กับโชคชะตา แต่ความฝันในวันวานบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจอันแน่วแน่ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ผมเคยกุมความฝันไว้ในมือและคิดจะฝ่าฟันไปให้ถึงไม่ว่าจะเจออุปสรรค์อะไรก็ตาม แต่สุดท้ายกลับพับมันเก็บไว้ในความทรงจำ เพราะตลอดช่วงเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมาเป้าหมายของผมไกลออกไปเรื่อย ๆ โดยตั้งปณิธานไว้ว่าจะต้องเดินไปให้ถึงในอนาคต ด้วยการ “เปลี่ยน Bitkub ให้เป็นสิ่งที่ประเทศไทยขาดไม่ได้” แม้ทุกวันนี้หลายคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Bitkub คืออะไร
ฉะนั้นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวตลอดทางจนกว่าจะถึงจุดหมายจึงไม่ง่ายเลย ยากเหมือนเดินอยู่ในอุโมงค์ที่มองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายทาง แต่นี่คือชีวิตและตัวตนของผมที่อยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่หรือใครก็ตามที่อยากสร้างธุรกิจของตัวเอง ซึ่งอาจจะจุดประกายชีวิตของใครสักคนได้ อย่างเช่นตัวผมเองที่ได้ประกายความฝันจาก “คริสเตียโน โรนัลโด” ไอดอลคนสำคัญในช่วงวัยเด็ก
เขาเป็นนักฟุตบอลที่ไม่ได้มีแค่พรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่มักจะเดินเข้าสนามซ้อมเป็นคนแรกและกลับเป็นคนสุดท้ายเสมอ กวาดรางวัลมากมายแข่งกับ “ลิโอเนล เมสซี” ซึ่งในโลกฟุตบอลตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แทบไม่มีนักฟุตบอลคนไหนก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งได้ พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่ “Good Payer” หรือนักฟุตบอลที่ดีเหมือนนักฟุตบอลมากความสามารถทั่วไป ที่มีเวลาอิสระ มีเวลาปาร์ตี้ มีเวลาให้กับครอบครัวอย่างเต็มที่ แต่พวกเขาเป็น “Great Player” ที่เหนือชั้นไปกว่านั้น โดยรู้ชัดว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร และทำอย่างไรให้ไปถึงเป้าหมายให้ได้
ทั้ง คริสเตียโน โรนัลโด และลิโอเนล เมสซี มีนิสัยแบบคนในโลกอนาคตและทุ่มเทมากกว่าคนปกติ พวกเขายอมเสียสละเวลาทำในสิ่งที่แตกต่างเพื่อแลกกับบางอย่างที่เงินซื้อไม่ได้ ขณะที่ชีวิตของคนทั่วไปมักจะมีระดับค่าเฉลี่ยเท่ากันและไม่ได้แตกต่างกันมากนักภายในเวลา 24 ชั่วโมงเท่าๆ กัน
ฉะนั้นการมีนิสัยที่เหมาะกับอนาคตจึงทำให้คนหนึ่งคนแตกต่างจากคนอื่นๆ มาก เพราะต้องมีวินัยสูง ทำทุกอย่างซ้ำๆ จนผนึกแน่นเป็นตัวตนของเขา และผมก็ทำแบบนั้นเช่นกัน ผมทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ไม่มีหยุดพัก ตื่นเช้ามาทำงานกระทั่งถึงตอนหลับตาเข้านอน
“ผมทำทุกอย่างจนเป็นนิสัย จนตอนนี้งานกับชีวิตกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว”
ช่วงชีวิตปัจจุบันในวัย 30 ต้นๆ ของผม เรียกได้ว่าทำงานหนักเหมือนคนอายุ 49 ปี พยายามอย่างหนักเพื่อฝืนตัวเองในช่วงเวลาที่ยากลำบากโดยไม่กลัวความล้มเหลวเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ กระทั่งก้าวเข้าสู่สงครามแห่งโลกธุรกิจอย่างเต็มตัว และใช้เวลายาวนานกว่าจะมาถึงวันนี้ วันที่ Bitkub เสียภาษีให้กับรัฐบาลถึงหลัก 1,000 ล้านบาท
ผมมักพูดเสมอว่าความล้มเหลวเป็นสิ่งที่คนเราจะเดินข้ามไปไม่ได้หากอยากก้าวไปสู่ความสำเร็จ ทุกคนต้องเคยล้มก่อนจึงจะประสบความสำเร็จได้ “ไม่มีใครเกิดมาแล้วขี่จักรยานเป็นในทันที ต่อให้อ่านคู่มือมาก็ไม่ช่วยอะไรเลย เพราะสุดท้ายต้องล้มแน่นอน วิธีเดียวที่จะปั่นจักรยานให้เป็นคืออย่ากลัวเจ็บ”
เทียบได้กับอะไรก็ตามถ้าเราอยากทำให้สำเร็จ อันดับแรกต้องพบกับความผิดหวัง ความเจ็บปวด แต่มันจะเป็นความเจ็บปวดที่ผมมั่นใจว่าเรายินดีรับและทนได้ หากใครไม่เคยล้มเหลวแสดงว่าคุณมาผิดทาง เพราะคุณทำในสิ่งที่ง่ายเกินไป คนเราต้องรู้จักเอาชนะตัวเอง กล้าที่จะทำสิ่งที่ตัวเองกลัวจนเป็นนิสัย ทำในสิ่งที่นอกเหนือจากคอมฟอร์ทโซน และเรียนรู้ด้วยตัวเองให้เป็นซึ่งเป็นสกิลที่สำคัญที่สุด
ทุกวันนี้ผมเองก็ยอมรับว่ายังมีความล้มเหลวอยู่ ยังไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จ แม้ว่า Bitkub จะเป็นหนึ่งใน สตาร์ทอัพ (Startup) ที่เติบโตเร็วมากในโลกของสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) และ Blockchain Technology ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยก็ตาม แต่ปัจจุบันเราอยู่ในโลกที่เรียกว่า Exponential World โลกที่มีพัฒนาการแบบก้าวกระโดด มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และในอนาคตยังจะเปลี่ยนแปลงเร็วมากกว่านี้อีก
พอมาย้อนคิดถึงวันวาน มีทั้งช่วงเวลาที่เสียใจที่สุดและภูมิใจที่สุดอย่างไม่น่าเชื่อ ในตอนเด็กเคยวาดฝันไว้ว่าจะต้องก้าวไปเป็นนักฟุตบอลให้ได้ ตัดสินใจทำทุกอย่างเพื่อที่จะเข้าใกล้ความฝันให้มากที่สุด แต่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเส้นทางชีวิตจะพลิกผันมาได้มากขนาดนี้
